วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

10 อันดับเครื่องบินรบที่เร็วที่สุดในโลก

๑.X-43 ถูกพัฒนาโดย NASA มันสามารถบินได้เร็วสุดถึง 9.8 มัค(12,101.04 กิโล/ช.ม) แต่ว่าไม่มีคนนั่งอยู่ด้วยนะคับ



๒. X-15 คับ ถูกพัฒนาโดย NASA เช่นเดียวกัน แต่ว่าอันนี้ต่างกับ X-43 คับ คือว่า ลำนี้มีคนขับด้วย ความเร็วคือ 6.72 mach (8,297.86 กิโล/ช.ม)



 ๓. SR-71 Blackbird ลำนี้สามารถบินได้ไวกว่ากระสุนปืน บินได้ที่ความเร็ว 3.2+ มัค (3,951.36 กิโล/ช.ม)



๔. MiG-25R Foxbat-B ความเร็ว ๓.๒ มัค (3,951.36 กิโล/ช.ม)



๕. XB-70 Valkyrie ความเร็ว ๓.๑ มัค (3,827.88 กิโล/ช.ม)



๖. MiG-31 Foxhound ความเร็ว ๒.๘๓ มัค (3,494.48 กิโล/ช.ม)



๗. MiG-25 Foxbat (Ye-155) ความเร็ว ๒.๘๓ มัค (3,494.48 กิโล/ช.ม)



๘. F-15 Eagle ความเร็ว ๒.๕ มัค (3,087.00 กิโล/ช.ม)



๙. F-111 Aardvark ความเร็ว ๒.๕ มัค (3,087.00 กิโล/ช.ม)



๑๐. X-1 ความเร็ว ๒.๔๓๕ มัค (3,006.74 กิโล/ช.ม)

10 อันดับสุดยอดปืนซุ่มยิง

10M24
อันดับที่ 10 ได้แก่ M24 ปืนซุ่มยิง M24 ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ขนาด 7.62 ม.ม.ยาว 1.092ม.ม.กล้องเล็งหนัก 794กรัม ขาทรายหนัก 318กรัม ซองกระสุน 5นัด ความเร็วกระสุน 853 เมตร/วินาที ระยะยิงหวังผล 800ม. ผลิตโดย บริษัท อาร์ม คัมพานี นิวยอร์คอเมริกา ปืนซุ่มยิง M24 ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ขนาด 7.62 ม.ม.ยาว 1.092ม.ม.กล้องเล็งหนัก 794กรัม ขาทรายหนัก 318กรัม ซองกระสุน 5นัด ความเร็วกระสุน 853 เมตร/วินาที ระยะยิงหวังผล 800ม. ผลิตโดย บริษัท อาร์ม คัมพานี นิวยอร์คอเมริกา
 
 
 
9M110 SR25
อันดับที่ 9 ได้แก่ M110 SR25 SR 25 ปืนยาว (Stoner ปืน 25 model) พัฒนาขึ้นโดย Reed Knight (เจ้าของ Knights ฝึกยิงอาวุธ Co) และ Eugene Stoner (ออกแบบ M16 และ Stoner 63 rifles ในสิ่งอื่น ๆ ) ในช่วงปี 1990 ในสาระสำคัญที่ SR 25 คือ AR - 15 ปรับขนาดปืนยาวถึงยิง 7,62 x51 / Win .308 กระสุนมีถึง 60% ของส่วนของปืนยาวใหม่ถูกถอดเปลี่ยนกับ AR - มาตรฐาน 15 องค์ประกอบ นี้ขายดีในหมู่นักกีฬาปืนยาวพลเรือนผู้ที่ต้องการปืนยาวกึ่งอัตโนมัติที่ถูกต้องใน 7,62 / 0.308 ความสามารถเพื่อการล่าสัตว์หรือยิงเป้า ปืนยาวนี้ยังพบความโปรดปรานของสหรัฐอเมริกาทหาร
 
 
 
8L42 EnField(Britain)
อันดับที่ 8 ได้แก่ L42 EnField(Britain) Lee Enfield เป็นสไนเปอร์ที่วัดกันที่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งมีไว้สำหรับคนที่ใช้สไนเปอร์ที่ชำนาญแล้วเท่านั้น เพราะกระสุนที่น้อย และเสียงที่ดังมากในขณะยิง ทำให้อีกฝ่ายนอกจากจะจับทิศทางเราได้ และเราจะแก้ทางค่อนข้างลำบากเพราะต้องเปลี่ยนกระสุนเพื่อทำให้นัดที่สองยิงได้แม่นยำเหมือนเดิม ทำให้เสียเวลามาก จึงควรตัดสินทุกอย่างในนัดเดียว
 
 
 
7M14
อันดับที่ 7 ได้แก่ M14 ปืนรุ่นนี้ประจำการกองทัพสหรัฐในสงครามเวียดนามช่วงแรกๆแต่เนื่องจากมีน้ำหนักมากและกระสุนมีขนาดใหญ่พกพาไปได้ไม่มากและมีความรุ่นแรงของขนาดกระสุนสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็น M- 16 และทางกองทัพสหรัฐก็เก็บคืนไปและสั่งปรับปรุงระบบชุดลั่นไกและตัวโครงปืนให้มีน้ำหนักเบาลงและเพิ่มความแม่นยำของระบบศูนย์และติดกล้องเล็งแล้วนำกลับไปประจำการเป็นอาวุธซุ้มยิงในหลายหน่วยของกองทัพสหรัฐ โดยเฉพาะหน่วยซีลนิยมใช้กันมาก
 
 
 
6Psg-1
อันดับที่ 6 ได้แก่ Psg-1 PSG – 1(Prazisions Sharfschutzen Gewehr – 1) ปืนสไนเปอร์ไรเฟิล (Sniper Rifle) กึ่งอัตโนมัติของบริษัท H&K แห่งเยอรมัน ชื่อของมันหมายถึง ปืนที่เเม่นยำ ผลิตโดยใช้โครงสร้างของ G3 โมเดล เป็นปืนที่มีความเเม่นยำสูงที่สุด เเละยังได้รับการประเมินว่าเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ในภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายของ Sniper Rifle ที่มีอยู่ในปัจจุบัน (เมื่อยิงในระยะ 100 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของเป้าหมายจะเท่ากับ 6.99 มม เมื่อยิงในระยะ 300 เมตรจะเท่ากับ 80 มม) เเต่ไม่มีเหตุผลที่จะใช้งานสำหรับภารกิจทางทหารทั่วๆไป เนื่องจาก ไม่สามารถโดนฝุ่นดินหรือโคลนได้ มีน้ำหนักมากเกินกว่า 8 กก. และราคาที่เเพงสมคุณภาพ คือ กระบอกละ 12,000 US $ ปืนไรเฟิลซุ่มยิง H&K PSG-1 ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback เหมือนปืนไรเฟิลอื่นๆของค่าย H&K แต่ยิงอัตโนมัติไม่ได้ ยิงได้แต่แบบกึ่งอัตโนมัติ ใช้กระสุนขนาด .308 Winhester หรือ 7.62×51 mm. NATO ความจุ 5 นัดและ 20 นัด
 
 
 
5Dragunov SVD
อันดับที่ 5 ได้แก่ Dragunov SVD Dragunov เป็นหนึ่งในรุ่นที่ดัดเเปลงหลายๆอย่างมาจากปืนไรเฟิล AK ของรัสเซีย เเละทำให้กลายเป็น สไนเปอร์ ไรเฟิล ด้วยการดัดเเปลง ลำกล้องให้ยาวขึ้น เปลี่ยนพานท้ายปืนเเละเพิ่ม Feeder เข้าไป ปัจจุบันดรากูนอฟ (SVD) ถูกใช้อย่างเเพร่หลายในยุโรปตะวันออกเเละรัสเซีย มันสามารถเล็งเป้าหมายที่เคลื่อนรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ เเละเเม่นยำ ด้วยเทเลโฟโต้เลนส์รุ่น PSO-1M2 สามารถปรับความเร็วการยิงได้โดยใช้การทำงานของเเก๊ซ ทำให้ความปลอดภัยในการยิงเเละการควบคุมปืนมีสูงขึ้น" Dragunov SVD จัดเป็นปืนประเภท Desingnate Marksman Rifle ( ปืนของพลชี้เป้า ) ครับ ไม่ได้เป็น Sniper Rifle เต็มตัว อันเนื่องมาจากความแม่นยำที่ไม่มาก ( 2.0-2.5 MOA แม่นกว่า Assault Rifle นิดเดียว ) การออกแบบปืนนี้และการใช้งาน จะไม่เน้นที่การเอามายิงลอบสังหารครับ ( เพราะมันไม่แม่นพอ ) แต่จะใช้ยิงและเล็งทำนองเชิงสนับสนุนมากกว่า เช่นการบอกตำแหน่งและการชี้ระยะเพื่อให้มีการยิงปืนใหญ่และรถถังสนับสนุน หรือเพื่อให้สไนเปอร์อีกคนยิง แต่ในบางสถานการณ์ SVD ก็สามารถใช้เป็นปืนซุ่มยิงระยะกลางได้ และหากไม่โดนก็สามารถที่จะยิงซ้ำได้ด้วยระบบ Semi Auto ของปืน โดยสรุปแล้ว ถึงจะไม่แม่นเท่าสไนเปอร์ไรเฟิลรุ่นมาตรฐาน แต่สามารถบอกระยะได้แม่นยำด้วยขีดบอกระยะเฉพาะในลำกล้อง
 
 
 
4AS50
อันดับที่ 4 ได้แก่ AS50 AS50 ของ บริษัท Accuracy International ประเทศอังกฤษ
 
 
 
3Barrett M82 .50Cal
อันดับที่ 3 ได้แก่ Barrett M82 .50Cal ปืนซุ่มยิงระยะไกลที่มีอำนาจการยิงสูง ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Barrett Firearms USA เป็นปืนซุ่มยิงที่ประจำอยู่หลายหน่วยทั่วโลก เป็นปืนซุ่มยิง กึ่งอัตโนมัติ ที่มีรังเพลิงไว้ใช้กับลูกขนาด.50 ที่มีอำนาจการทำลายสูง ด้วยประสิทธิภาพการยิงที่แม่นยำที่ระยะ 1.5 กม. รวมทั้งสถิติการยิงที่ระยะ 2.5 กม. รวมทั้งกระสุนที่มีพลังงานสูงที่มีประสิทธิภาพ สามารถปฎิบัติการ ต่อเป้าหมายที่สำคัญเช่น หอควบคุมเรดาห์ รถบรรทุก หรืออากาศยาน
 
 
 
2Chaytac M200 (ขนาด .408)
อันดับที่ 2 ได้แก่ Chaytac M200 (ขนาด .408) ปืนไรเฟิลซุ่มยิง CheyTac Intervention ใช้กระสุนขนาด .408 CheyTac ระบบปฏิบัติการแบบ Bolt-action ความจุ 5-7 นัด ระยะหวังผล 1,800-2,000 เมตร
 
 
 
1L115A3 AWM
อันดับที่ 1 ได้แก่ L115A3 AWM ปืนสไนเปอร์ระยะไกล L115a3(AWM-Arctic Warfare Magnum)ที่ยิงได้อย่างแมนยำในระยะ1500เมตรใช้ใน8ประเทศในปัจจุบัน และนายทหารชาวอังกฤษเมืองผู้ดีนายนึงได้ทุบสถิติที่Sniperทุกคนเคยทำมาด้วยการยิงที่ไกลที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาทุบทุกสถิติที่สไนเปอร์ทั่วโลกเคยทำไว้ เขาสังหารทหารพลปืนกลเบาTalibanสองนายจากระยะทางถึง 2.47 กิโลเมตรในหุบเขา ณ อัฟกานิสถาน ซึ่งไกลเกินกว่าระยะที่ปืนL115a3ของอังกฤษที่ใช้กระสุน.338 lapua magnumจากfinlandจะทำได้
 
 

รถที่เร๊วที่สุดในโลก 10อันดับแรก


อันดับที่ 10 SC Ultimate Aero
เจ้าสถิติความเร็วตัวยง 412 กิโลเมตรที่ถูกบันทึกไว้ได้โดย กินเนสบุ๊คนั้น คงไม่ใช่รถที่ใครจะสัมผัสได้ง่ายๆ เพราะมันมีค่าตัวถึง 740,000 ดอลล่าร์ นี่ยังไม่นับค่าดูแลรักษาที่ต้องการเป็นพิเศษ และแม้มันจะเริ่มแก่ไปนิด แต่ความเก๋าของมันนั้น ยังมีอยู่กับสถิตเจ้าความเร็วที่เพิ่งโดน Bugati Veyron Super Sport ลบไปในปีนี้


อันดับที่ 9 Leblanc Mirabeau

ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามเข้ามาในอันดับนี้ กับรถที่เป็นสปอร์ตดิบๆ แต่ราคาแพงเหลือร้ายกว่า 765,000 ดอลล่าร์ Leblanc Mirabeau นั้นเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดหน้าต่างไร้กระจก ให้ความดิบดุดัน ด้วยเครื่องวางกลางขับหลัง ตามสไตล์การแข่งขันรถ Le-mans ซึ่งรถรุ่นนี้พกแรงม้ามากว่า 700 ตัว ทางด้านหลังคุณ รับรองไม่มีวันไปทำงานสายๆแน่ๆ


อันดับที่ 8 Koenigsegg CCX

ขยับกันขึ้นมาอีกนิดสำหรับรถสปอร์ตมูลค่า หลัก กับ Koenigsegg CCX ที่มีมูลค่ากว่า 1.1 ล้าน ดอลล่าร์ ค่าตัวที่แพงแลกกับอัตตราเร่ง 0-100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3.2 วินาที และ ใน 9.8 วินาที มันก็สามารถพาคุณถึงความเร็วที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้มีรายงานว่าสามารถทะลุเพดานได้กว่า 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ


อันดับที่ 7 Koenigsegg CCXR

ค่าตัว 1.3 ล้านดอลล่าร์ กับเวอร์ชั่นเพิ่มความแรงของ Koenigsegg CCX นั้นถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับเศรษฐี โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์ V8 พร้อม Supercharger สามารถทำแรงม้าได้กว่า 806เมื่อคุณเลือกใช้ ออกเทน 98 แต่ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้รองรับการใช้งานของ E85 และ E 100 ซึ่งเมื่อได้รับน้ำมันดังกล่าวนั้น มันจะมีพละกำลังกว่า 1,018 แรงม้า เลยทีเดียว


อันดับที่ 6 Maybach Landaulet

Maybach Landaulet ที่มาพร้อมค่าตัว 1.4 ล้านดอลล่าร์นั้น มันอาจจะไม่ใช่ รถสปอร์ตพันธุ์แรงมากมายเหมือนที่ผ่านมาแต่น่าสนใจด้วยความหรูหราและแน่นนอนขุมพลัง V12 พร้อมแรงม้า 612 แรงม้านั้น อาจมองไม่คุ้มค่ากับที่จะจ่าย แต่ถ้าคุณรู้ว่ารถรุ่นนี้หรูเพียงใด คงอาจจะไม่ปฏิเสธที่จะอยากได้มัน


อันดับที่ 5 Lamborghini Reventon

เจ้ากระทิงดุ ชื่อแปลกๆ ผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 20 คัน พร้อมค่าตัวสุดแพงกว่า 1.42 ล้านดอลล่าร์นั้น เป็นอะไรที่หลายคนคงชอบ และแน่นอน ค่าตัวที่แสนแพงมาพร้อมความแรงจากเครื่องยนต์ V12 ที่ทะยานได้ว่องไว และคล่องตัวในทุกสมรรถนะการขับขี่กับ ระบบขับเคลื่อน ล้อ


อันดับที่ 4 Lamborghini Reventon Roadster

เจ้ากระทิงดุพันธ์แรงเวอร์ชั่นโรดสเตอร์นั้น ตามมาติดๆ และมันขึ้นนำในเรื่องความแพงกว่าเวอร์ชั่นธรรมดา สูงถึง 1.56 ล้านดอลล่าร์ และทุกอย่างมีความสวยงามมากกว่าเดิม จนน่าหามาใช้สักคัน


อันดับที่ 3 Roadster Pagani Zonda Cinque

อีกหนึ่งสปอร์ตพันธุ์แรงแดนมักกะโรนี ที่แพงและความแรงที่ไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ค่าตัวกว่า 1.8 ล้านดอลล่าร์ของ Roadster Pagani Zonda Cinque ความแพงที่สุดแสนจะบรรยายนี้มาจากเครื่องยนต์ V12ที่บรรจุเอาไว้ในรถให้แรงม้าเพียง 678 แรงม้า แต่มีความแรงในระดับ 0- 100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3. 4วินาที และความเร็วปลายให้คุณได้สะใจกว่า 349 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


อันดับที่ 2 Bugatti Veyron Grand Sport

เจ้าVeyron ยังคงแพงเหมือนเคยและครองตำแหน่งในอันดับ ในปีนี้กับค่าตัวระดับ ล้านดอลล่าร์ที่ไม่ใช่จะเป็นเจ้าของกันง่ายๆเสียด้วย เรื่องสมรรถนะความแรงระดับเจ้าสถิติโลกความเร็วปัจจุบันนั้น คงไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าคุณซื้อเวย์รอนมาขี่ แน่นอนคุณต้องชอบความเร้วและทันสมัย บวกกับความหรูหราของมัน

อันดับที่ 1 Koenigsegg Trevita
แพงที่สุดและหาตัวจับยากที่สุดกับค่าตัว 2.21 ล้านดอลล่าร์ ถือว่าไม่ใช่อะไรที่แพงถ้าคุณกำลังมองหารถหายากที่สุดรุ่นหนึ่งบนถนนกับเจ้า Koenigsegg Trevita ที่เป็นรุ่นพิเศษกว่าเดิม 1,018 แรงม้า จากรุ่นปกติคงเป็นอะไรที่ไม่สามารถพบได้บ่อยนักจากเครื่องยนต์ V8 และแน่นอน มันพิเศษจริงๆ